-
สัญญารับประกันโครงสร้างและอาคาร
โดยปกติทางโครงการมักทำสัญาว่าจะรับประกันบ้านสำหรับส่วนเหนือดินเป็นเวลาหนึ่งปี และส่วนโครงสร้างใต้ดินเป็นเวลาห้าปี เอกสารรับประกันนี้ควรเป็นเอกสารต่างหากจากเอกสาร จะซื้อจะขายซึ่งเราใช้ในการซื้อขายบ้านครั้งแรก เนื่องจากเอกสารจะซื้อจะขายจะหมดอายุลง เมื่อเราทำสัญญาซื้อขายบ้านกันจริงๆ ที่กรมที่ดินแล้ว เพราะชื่อของสัญญาก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นสัญญาแค่ “จะซื้อจะขาย” เมื่อซื้อขายกันจริงแล้วก็ถือว่าสัญญานี้เป็นอันจบลง ดังนั้นถ้าทางโครงการแจ้งว่าให้ใช้ข้อความตามสัญญาจะซื้อจะขาย ขอให้ท่านใช้คำนี้โต้แย้งกับ โครงการว่าควรออกเป็นเอกสารสัญญาต่างหาก หรืออย่างน้อยก็ให้ทางโครงการเอาสัญญา จะซื้อจะขายนั้นมาลงข้อความเพิ่มว่า การรับประกันจะดำเนินต่อไปแม้ว่าจะโอนบ้านแล้ว ก็ถือว่าใข้ได้ และถ้าท่านสามารถต่อรองเพื่อยืดระยะเวลาการรับประกันบ้านเพิ่มจากที่บอกไว้ ข้างต้นก็จะเป็นสิ่งที่ดีมาก
-
เอกสารการรับประกันอื่นๆ
อาจได้จากบริษัทภายนอกที่ไม่ใช่ของโครงการ มีตั้งแต่การรับประกันของบริษัทกำจัดปลวก ซึ่งปกติมีอายุตั้งแต่หนึ่งปีถึงสามปี ถ้าแม้ว่าโดยแท้จริงแล้วการรับประกันเรื่องปลวกนั้นเป็นแค่ การยอมรับว่าจะมาฉีดปลวกเพิ่มเป็นจุดๆ เท่านั้นก็ตาม ให้ท่านขอใบรับประกันนี้เอาไว้ ดีกว่า ไม่มีเอกสารใดๆ อ้างอิงในภายหลัง เอกสารการรับประกันการมุงหลังคา ซึ่งหลายโครงการ จะจัดจ้างบริษัทภายนอกมามุงหลังคา เอกสารเหล่านี้ให้ท่านเจ้าของบ้านเก็บเอาไว้ให้ดี จากประสบการณ์พบว่า หลายครั้งตัวเองมีโอกาสต้องนำข้อมูลและเอกสารการรับประกันนี้มาใช้เสมอๆ
-
แบบแปลนบ้านที่เป็นแบบก่อสร้าง
ปกติทางโครงการมักไม่มอบให้ทางเจ้าของบ้าน เนื่องจากแบบก่อสร้างนั้นทางโครงการถือ เป็นทรัพย์สินและลิขสิทธิ์ของบริษัท ท่านเจ้าของบ้านควรต่อรองเพื่อขอเอกสารนี้ดูโดยเฉพาะ ก่อนที่จะลงนามรับมอบบ้าน ซึ่งในเวลานั้นท่านอาจพอมีอำนาจต่อรองได้บ้าง
ถ้าไม่ได้เอกสารชุดเต็ม อาจต่อรองขอถ่ายเอกสารเป็นส่วนๆ ก็ยังดีกว่าไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย ข้อมูลที่มีความสำคัญมากๆคือ ผังไฟฟ้า เพราะเราสามารถเอามาใช้วางผังเฟอร์นิเจอร์และ งานตกแต่งภายในได้ ข้อสำคัญคือ แบบที่ได้มาควรมีมาตราส่วนที่สามารถวัดได้จริง ไม่ควรรับแบบที่ไม่มีมาตราส่วน
-
เบอร์สีที่ทาบ้านทั้งภายในและภายนอก
เผื่อไว้เพื่อซ่อมแซมสีในภายหลัง สีที่เราซ่อมจะได้ไม่เพี้ยนไปจากเดิมมากนักแต่ทั่วไปแล้ว
เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ สีเดิมที่ทาไว้มักจะซีดกว่าสีใหม่ ซึ่งต่อให้เราใช้สีเบอร์เดิม
สีที่ทาใหม่มักเพี้ยนไปจากสีเดิมมาก
-
เอกสารอื่นๆ
ขึ้นอยู่กันสภาพของแต่ละโครงการว่าท่านเจ้าของบ้านเห็นว่ามีประโยชน์ในภายหลัง
ข้อสำคัญคือเราต้องทำรายการและบันทึกข้อมูลเหล่านี้เป็นเอกสารให้เรียบร้อย โดยให้ตัวแทน
ของโครงการลงนามรับทราบก่อนลงชื่อรับบ้าน
-
วัสดุก่อสร้าง
ถ้าทำได้ ท่านเจ้าของบ้านควรขอแผ่นกระเบื้องปูพื้นและผนังสำรองจากทางโครงการไว้
สักสามถึงสี่แผ่นต่อสีต่อลาย เผื่อไว้ซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ จะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายหาซื้อในภายหลัง
ซึ่งปกติเรามักจะหาซื้อกระเบื้องเหล่านี้ไม่ได้